แครนเบอร์รี่ VS PACs
เป็นที่ทราบกันดีในกลุ่มนักวิจัยว่า สารสกัดจากผล แครนเบอร์รี่ นั้น ประกอบไปด้วย Proanthocyanidins (PACs) ซึ่่งจะทำหน้าที่ช่วยขจัดแบคทีเรีย E.Coli ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือต้นเหตุของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ทุกวันนี้ผู้หญิงหลาย ๆ คน ยังคงวนเวียนอยู่กับการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อีกทั้ง.. ยังต้องวนเวียนอยู่กับการใช้ยาปฏิชีวนะ ทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็นอย่างไม่สิ้นสุด ต้องขอบคุณงานวิจัยต่าง ๆ เกี่ยวกับงานด้านแครนเบอร์รี่ ซึ่งมีมานาน และพบว่า มีบางสิ่งบางอย่างในแครนเบอร์รี่ที่สามารถช่วยบำรุงสุขภาพของระบบทางเดินปัสสาวะให้ทำงานได้ดีขึ้น
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
การติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะเป็นอาการที่เกี่ยวกับการติดเชื้อที่พบมากที่สุดในผู้หญิง
ตามสถิติจากสถาบันแห่งชาติของโรคเบาหวานและโรคทางเดินอาหารและโรคไต การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นการติดเชื้ออันดับสองมากที่สุดที่พบบ่อยของการติดเชื้อในมนุษย์ จากสถิติพบว่า มีการเข้าพบแพทย์ประมาณ 8,100,000 ต่อปี ซึ่งผู้หญิงมีความเสี่ยงมาก เพราะว่าผู้หญิงมีท่อปัสสาวะสั้น ซึ่งทำให้แบคทีเรียสามารถไปยังกระเพาะปัสสาวะได้
การป้องกัน คือ กุญแจสำคัญ เพราะว่ายาปฏิชีวนะไม่ได้เป็นวิธีการแก้ปัญหาได้ในระยะยาว เนื่องจากเชื้อจะเริ่มดื้อยาขึ้นเรี่อย ๆ อีกทั้ง.. ยาปฏิชีวนะมีผลกระทบในทางลบต่อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้อีกด้วย
การรับมือต่อการดื้อยาของแบคทีเรีย
แครนเบอร์รี่นั้นแตกต่างจากยาปฏิชีวนะที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แต่แครนเบอร์รี่จะเข้าไปเปลี่ยนโครงสร้างของเชื้อแบคทีเรียและป้องกันการยึดเกาะระหว่างแบคทีเรียกับเนื้อเยื่อ ซึ่งประสิทธิภาพดังกล่าวของแครนเบอร์รี่ไม่มีความเสี่ยงต่อการดื้อของแบคทีเรีย
การใช้แครนเบอร์รี่ในระบบทางเดินปัสสาวะนั้น หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1700 ซึ่งในขณะนั้น “กลไกที่แท้จริงของมันยังคงเป็นปริศนา” ต่อมาในช่วงต้นปี 1980 เมื่อการวิจัยปรากฏในวารสารของระบบทางเดินปัสสาวะได้แสดงให้เห็นว่า แครนเบอร์รี่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ E. coli ไม่ให้ยึดติดกับเซลล์เยื่อบุผิวทางเดินปัสสาวะซึ่งได้มีการยืนยันโดยการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ การวิจัยต่อจากนั้นมุ่งเน้นไปที่สาร antioxidant ในแครนเบอร์รี่ที่รู้จักในชื่อ proanthocyanidins หรือ PACs ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของผลการป้องกันดังกล่าว “สาร PACs นี้จะไปเกาะกับ fimbriae ของพื้นผิวแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียไม่สามารถไปเกาะกับพื้นผิวของกระเพาะปัสสาวะหรือท่อทางเดินปัสสาวะได้” และทำให้ง่ายต่อการขับแบคทีเรียออกมาพร้อมกับปัสสาวะ
ในปีที่ผ่านมา วารสาร The American Journal of Clinical Nutrition แสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำแครนเบอร์รี่ 8 ออนซ์หรือ 240 มล.ต่อวัน จะช่วยลดอาการของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะลงมากกว่า 40% ในผู้หญิงที่มีการติดเชื้อบ่อย และการศึกษาดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าสามารถหลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะในช่วงระยะเวลาการศึกษาหกเดือน
การวัดปริมาณ Proanthocyanidins (PACs)
ขณะที่การวิจัยสินเชื่อถึงประสิทธิภาพของแครนเบอร์รี่นั้นมาจาก PACs ดังนั้นเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพของสินค้าแครนเบอร์รี่นั้น ควรจะมีการระบุระดับของ PACs ไว้บนฉลากเพื่อให้ผู้บริโภคได้พิจารณาได้
ปี ค.ศ. 2010 มีการเกิดขึ้นของวิธีการDMAC(หรือ BL-DMAC หลังจากที่การพัฒนาจาก Brunswick Labs) และได้อนุญาตให้ผู้ผลิตสามารถตรวจสอบ PACs ในสารสกัดจากแครนเบอร์รี่
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ : ไม่ได้เป็นเพียงสำหรับผู้หญิงอีกต่อไป
หากพูดคุยเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ! ใช่การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเป็นจริงตรงกันกับ“สุขภาพของสตรี” และผู้หญิงที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการดังกล่าวประมาณ 4 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ชาย ดังนั้น.. ผู้ชายก็ยังมีโอกาสเกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้เช่นกัน
เมื่อผู้ชายเข้าสู่วัย 40 ปีขึ้นไป ต่อมลูกหมากจะมีการขยายตัวและยังผลให้เกิดอาการต่าง ๆ เกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะบ่อยขึ้น ต้องเบ่งนานกว่าจะปัสสาวะออกมา เป็นต้น ซึ่งทำให้มีโอกาสการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะตามมาได้เช่นกัน